วันอังคารที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

กีฬาภายในวิทยาลัยชุมชนมุกดาหาร ปี 2553

























ภาพน่าดูงานกีฬาภายในวิทยาลัยชุมชนมุกดาหาร ครั้งที่ ๙ ณ หน่วยจัดการศึกษาอำเภอดงหลวง เมื่ิอ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔

วันอาทิตย์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

หลานคนใหม่

เมื่ออายุมาก(เป็นคนแก่)ถึงเวลาที่ต้องดูแลลูกหลาน ตอนนี้ มีหลานคนใหม่ ที่ทำให้ตาและยายมีความสุขมาก เพราะมีหลานเป็น "ของเล่น" หลังจากลูกๆ ต้องไปศึกษาเล่าเรียน ตายาย อยู่กันสองคน ถ้าไม่มีหลาน คงเหงาน่าดู ...หลาน "ไออุ่น" ของตาและยาย

วันจันทร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ลุงแหล่....คนทำแคน หนึ่งเดียวของจังหวัดมุกดาหาร



แคน....เครื่องดนตรีอัศจรรย์แห่งอีสาน ที่น้อยคนนักที่จะฝึกหัด และสามารถที่จะเล่นได้อย่างดนตรีสากลทั่วไป แต่การที่คนหลายคน ที่สามารถเล่นดนตรีชนิดนี้ได้ ถูกถ่ายทอดด้วยวิถีชีวิต เสียงแคนเปรียบเสมือนชีวิตของคนอีสาน ที่ได้สะท้อนความเป็นมา ความเป็นคนเรียบง่าย แต่ลึกซึ่งด้วยสาระ ยากนักที่คนทั่วไป จะสามารถเข้าถึงแก่นแท้ได้


แต่ปัจจุบัน คนทำแคน เหลือน้อยเต็มที่ เฉกเช่นในจังหวัดมุกดาหาร เท่าที่ทราบพบว่า มีลุงแหล่ คนทำแคนที่ทำด้วยการสืบทอดมาจากบิดา(บ้านหนองแอก ตำบลคำป่าหลาย อำเภอเมืองมุกดาหาร) เป็นมรดกของวิถีชีวิตที่อยากสืบทอดให้คงอยู่ต่อไป แต่ก็อดห่วงใยไม่ได้ที่พบว่า คนรุ่นใหม่ไม่สนใจ ทั้งนี้เพราะทั้งยาก และควาไม่เห็นความสำคัญของมรดกทางดนตรีของเครื่องดนตรีชนิดนี้ วิทยาลัยชุมชนมุกดาหาร เห็นความสำคัญดังกล่าว จึงได้พยายามหาคนสืบทอด ด้วยการสร้างหลักสูตรการฝึกอบรม หรือหลักสูตรอื่นๆที่ต้องการให้ แคน เครื่องดนตรีแห่งชีวิตชนิดนี้ ได้มีส่วนสร้างสรรค์ความงดงามของเสีนงดนตรีและวิถีชีวิตควบคู้กันไป เราได้พัฒนาหลักสูตร "ลำผญาห้วดอนตาล" โดยมี หมดลำผมหอม สกุลไทย ภูมิปัญญาท้องถิ่นระดับชาติ ทำหน้าที่อาจารย์ผู้สอน/ถ่ายทอดแก่อนุชนรุ่นหลังในเขตอำเภอดอนตาล เพื่อปลูกฝังให้เกิดความรักท้องถิ่น รักเสียงแคน ...มุกดาหาร คงไม่สิ้นเสียงแคน แต่คนทำแคนคงจะหมดในในไม่ช้า

ปฏิรูปอุดมศึกษา...ปฏิรูปประเทศไทย





ช่วงวันที่ ๑๓-๑๕ ธันวาคม ๒๕๕๓ ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา จัดการประชุมสัมมนาในหัวข้อ "ปฏิรูปอุดมศึกษา ปฏิรูปประเทศไทย" ทั้งนี้เพิ่มบทบาทของสถาบันอุดมศึกษา ให้มีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ นำความรู้ออกจากรั้วสถาบัน สู่ชุมชนให้มากขึ้น โดยนำเสนอโครงการ "หนึ่งจังหวัด หนึ่งมหาวิทยาลัย" เป็นการมอบหมายให้วิทยาลัย/มหาวิทยาลัย ที่เป็นสถาบันอุดมศึกษา รับผิดชอบในการพัฒนาจังหวัด ทำหน้าที่เป็นสถาบันที่อุดมไปด้วยองค์ความรู้ ควรที่จะนำความรู้ไปสู่ชุมชน อย่างเป็นเรื่องเป็นราว ต่อเนื่อง โดยร่วมมือกับชุมชน ร่วมค้นหาปัญหาแล้วดำเนินการแก้ไขปัญหาร่วมกัน

ประกวดสกายแลป

จังหวัดมุกดาหาร กำหนดให้มีการประกวดรถสกายแลป รถโดยสารประเภทหนึ่งที่เกิดขึ้นในจังหวัดมุกดาหาร ทำหน้าที่ให้บริการนักท่องเที่ยว จนกล่าวได้มา รถสกายแลป เป็นสัญลักษณ์กาเดินทางท่องเที่ยวของจังหวัดมุกดาหาร ที่หลายคนกล่าวถึง และคงรที่จะให้ความสำคัญในการสนับสนุนให้รถสกายแลปเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดมุกดาหารอย่างแท้จริง วิทยาลัยชุมชนจังหวัดมุกดาหาร ได้รับมอบหมายจากจังหวัดมุกดาหาร ให้ดำเนินการจัดประกวดรถสกายแลปประเภท "ความคิดสร้างสรรค์" ซึ่งมีรถสกายแลปส่งข้าประกวด จำนวน ๖ คัน ซึ่งบุคลากรของวิทยาลัยชุมชน ได้ดำเนินการประกวดให้คะแนนเสร็จเรียบร้อยแล้ว และได้รายงานผลการประกวดให้จังหวัดทราบและได้มีการมอบรางวัล เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๓ ที่ผ่านมา และวิทยาลัยชุมชนมุกดาหาร ยังมีโครงการในการพัฒนาหลักสูตร เพื่อการพัฒนาคุณภาพการให้บริการของรถสกายแลป โดยจัดหลักสูตรฝึกอบรมหลายๆหลักสูตร และจะได้ดำเนินการในปีงบประมาณ ๒๕๕๔ นี้อย่างต่อเนื่องต่อไป

ตรวสอบการทำงานองค์กรอิสระ

วันนี้ (๒๐ ธันวาคม ๒๕๕๓) ได้รับเชิญจากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมเสวนาเรื่อง การตรวจสอบองค์กรอิสระในการใช้อำนาจรัฐ ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการจาก USAID จากอเมริกา เพื่อรวบรวมความคิดเห็นจากภารัฐและภาคประชาสังคม สะท้อนการทำงานขององค์กรอิสระดังกล่าว เพื่อร่วมกันสร้างความน่าอยู่ให้กับประเทศไทย จะเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน เป็นเรื่องที่น่าพิจารณา เพราะี่ที่ผ่านมาในรอบหนึ่งปี องคืกรอิสระของประเทศไทย ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า มีแต่อำนาจ ไม่มีจิตสำนึกมากเพียงพอในการปฏิบัติหน้าที่ จำเป็นที่จะต้องช่วยกันสะท้อนความเป็นไปดังกล่าวให้สาธารณะได้รับรู้บ้างว่า องค์กรเหล่านี้ ยังจะสามารถเป็นที่พึ่งให้กับประชาชนต่อไปหรือไม่ เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ที่บัญญัติให้องค์กรอิสระเหล่านี้เกิดขึ้น





ผู้เข้าร่วมการเสวนา ประกอบด้วยตัวแทนจากภาครัฐ และภาคประชาสังคม ซึ่งจะเห็นได้ว่า บุคคลที่เข้าร่วมเวทีการเสวนา เป็นผู้นำชุมชนที่ได้ร่วมกันสร้างพลังสร้างสรรค์ให้แก่จังหวัดมุกดาหารตลอดมา โดยเฉพาะกลุ่มบุคคลที่เป็นผู้นำองค์กรชุมชน

วันอังคารที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

น้ำตก คอนพะเพ็ง (แขวงจำปาสัก)...สปป.ลาว

ในช่วงวันที่ ๒๗-๒๘ ได้มีโอกาสเดินทางไปท่องเที่ยวแขวงจำปาสัก ได้เดินทางไปเที่ยวชมน้ำตกหลายแห่ง โดยเฉพาะ น้ำตกที่ขึ้นชื่อว่าสวยงาม ได้แก่น้ำตกคอนพะเพ็ง น้ำตกตาดส้วม และน้ำตกตาดฟาน ซึ่งทำให้เห็นว่า นับเป็นโชดีของประชาชนประเทศลาว ที่มีทรัพยากรธรรมชาติที่สวยงามเช่นนี้ เป็นผลของการสร้างสรรค์จากธรรมชาติ ที่มนุษย์ได้รับประโยชน์จากการได้ไปเยี่ยมชน รู้สึกถึงความอัศจรรย์ของธรรมชาติ ประเทศใด ได้เป็นเข้าของทรัพยากรธรรมชาติที่สวยงามเหล่านี้ ย่อมเป็นโคดี เป็นควรมภาคภูมิใจ อย่างไรก็ตาม เมื่อธรรมชาติได้มอบสิ่งที่มีค่าให้กับมนุษย์ เป็นหน้าที่โดยตรงที่จะต้องใช้ทรัพยากรเหล่านั้นด้วยความเคารพ ไม่เอาเปรียบธรรมชาติ เมื่อธรรมชาติได้ให้ความอิ่มเอิบ มนุษย์ควรที่จะต้องตอบสนองแทนคุณเหล่านั้น ด้วยการไม่ทำลาย แต่มีหน้าที่ต้องอนุรัักษ์รักษาให้มีความสมดุลอย่างต่อเนื่องยาวนาน ไม่ทำลาย ซึ่งทำให้เห็นว่า ประเทศลาว ได้ใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่มีได้อย่างคุ้มค่า ไม่นำเอาสิ่งแปลกปลอมเข้าไป มีแต่นักท่องเที่ยวเท่านั้น ที่ไม่มีระเบียบวินัยในการเที่ยวชทธรรมชาิติ ข้อสังเกตุประการปนึ่ง พบว่า มีแต่นักท่องเที่ยวจากปรเทศไทย(มีต่างชาติบางแต่น้อย) เดินทางไปใช้จ่ายในประเทศลาวเป็นจำนวนมาก หากจะดูธรรมชาติที่ได้พบเห็น คิดว่า ประเทศไทยเราก็มีทรัพยากรธรรมชาติที่มีความสวยงาม ไม่แตกต่างกันมากนัก เราควรที่หันมาเที่ยวกันในประเศกันให้มากขึ้น ลดการใช้จ่าย เอาเงินบาทไปทิ้งในต่างประเทศลงบ้างก็คงจะดี